Biostimulator
- SPARK IDEA

- 21 พ.ค.
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 16 มิ.ย.

Biostimulator คืออะไร?
Biostimulator คือ สารฉีดที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและ
อีลาสตินตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น เต่งตึง และอ่อนเยาว์ การใช้ Biostimulator จึงเป็นนวัตกรรมที่ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายในสู่ภายนอก ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยาวนานกว่าการเติมเต็มทั่วไป
Biostimulator ทำงานอย่างไร?

เมื่อฉีด Biostimulator เข้าสู่ใต้ชั้นผิว สารเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็น "ตัวกระตุ้น" ให้เซลล์ Fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์หลักในการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น ผิวแน่นกระชับขึ้น ริ้วรอยลดเลือนลง และคุณภาพผิวโดยรวมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ข้อดีของ Biostimulator
ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ: กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของตัวเอง ทำให้ผิวฟูขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ดูแข็งหรือเป็นก้อน
ผลลัพธ์ยาวนาน: เนื่องจากเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ผลลัพธ์จึงอยู่ได้นานกว่าสารเติมเต็มทั่วไป โดยอาจคงอยู่ได้นาน 1-2 ปี หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับชนิดของ Biostimulator และการดูแลรักษา
ปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม: นอกจากเรื่องความกระชับแล้ว ยังช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น และดูมีสุขภาพดี
มีความปลอดภัย: สาร Biostimulator ที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นสารที่เข้ากันได้ดีกับร่างกายและสลายได้เอง
Biostimulator ยอดนิยม: เลือกแบบไหนให้เหมาะกับคุณ?
Biostimulator เป็นสารฉีดที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินตามธรรมชาติของร่างกาย ทำให้ผิวฟื้นฟูจากภายในสู่ภายนอก ผลลัพธ์ที่ได้จึงดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้ยาวนาน ในปัจจุบันมี Biostimulator หลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีส่วนประกอบ กลไกการทำงาน และจุดเด่นที่แตกต่างกัน เพื่อให้คุณเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับปัญหาผิวและความต้องการของคุณ
1. Sculptra

ส่วนประกอบหลัก: Poly-L-Lactic Acid (PLLA)
กลไกการทำงาน
PLLA เป็นสารที่เข้ากันได้ดีกับร่างกายและจะค่อยๆ สลายไปในระยะเวลาหนึ่ง แต่ในระหว่างนั้นจะกระตุ้นให้เซลล์ Fibroblast สร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและในปริมาณมาก ซึ่งช่วยคืนวอลลุ่มและโครงสร้างผิวที่แข็งแรง
จุดเด่น
คืนวอลลุ่มแบบเป็นธรรมชาติ: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูวอลลุ่มที่หายไปจากความร่วงโรยของวัย เช่น แก้มตอบ ขมับตอบ หรือผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูอิ่มเอิบขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ผลลัพธ์ยาวนาน: ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี หรือมากกว่านั้น เนื่องจากเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของร่างกายเอง
ค่อยเป็นค่อยไป: ผลลัพธ์จะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นในระยะเวลา 2-3 เดือนหลังการฉีด ซึ่งทำให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีใครสังเกตเห็นว่า "ไปทำอะไรมา"
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย, มีริ้วรอยร่องลึก, ใบหน้าตอบ ขาดวอลลุ่ม, หรือผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและดูเป็นธรรมชาติ
2. Juvelook

ส่วนประกอบหลัก: Poly D,L-Lactic Acid (PDLLA) ผสมกับ Hyaluronic Acid (HA)
กลไกการทำงาน
เป็น Hybrid Biostimulator ที่มีสองกลไกในหนึ่งเดียว HA จะช่วยเติมความชุ่มชื้นและให้ผลลัพธ์การเติมเต็มเบื้องต้น ส่วน PDLLA จะค่อยๆ สลายตัวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
จุดเด่น
เน้นการปรับปรุงคุณภาพผิว: โดดเด่นในการช่วยกระชับรูขุมขน ลดเลือนหลุมสิว ปรับผิวให้เรียบเนียนละเอียด และเพิ่มความชุ่มชื้น
ผลลัพธ์ทั้งทันทีและระยะยาว: HA ให้ผลลัพธ์ความชุ่มชื้นและอิ่มฟูทันที ส่วน PDLLA จะกระตุ้นคอลลาเจนให้ผลลัพธ์ในระยะยาว
เหมาะกับผิวบอบบาง: สามารถใช้ได้ในบริเวณที่ผิวบอบบาง เช่น ใต้ตา เพื่อช่วยลดริ้วรอยและรอยคล้ำ
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง, มีหลุมสิวตื้นๆ, ผิวแห้งกร้านขาดความชุ่มชื้น, มีริ้วรอยเล็กๆ หรือผู้ที่ต้องการฟื้นฟูคุณภาพผิวให้เรียบเนียนและสดใสขึ้น
3.Radiesse

ส่วนประกอบหลัก: Calcium Hydroxylapatite (CaHA) Microspheres
กลไกการทำงาน
CaHA เป็นอนุภาคขนาดเล็กที่คล้ายกับแร่ธาตุในกระดูก เมื่อฉีดเข้าไปจะทำหน้าที่เป็นโครงสร้างรองรับชั่วคราวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type I และ Type III รวมถึงอีลาสติน ทำให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่น
จุดเด่น
ให้วอลลุ่มทันที + กระตุ้นคอลลาเจน: มีคุณสมบัติเด่นที่ให้วอลลุ่มได้ทันทีหลังฉีด และยังคงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง
แก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึก: มีประสิทธิภาพสูงในการเติมเต็มร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องมุมปาก รวมถึงการยกกระชับกรอบหน้า
หลากหลายบริเวณ: สามารถใช้ได้ทั้งใบหน้า (ยกเว้นใต้ตาและริมฝีปาก), ลำคอ และหลังมือ เพื่อลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความอิ่มฟู
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกปานกลางถึงมาก, ผิวหย่อนคล้อยปานกลาง, ต้องการปรับโครงหน้าให้ดูชัดขึ้น, หรือต้องการฟื้นฟูผิวบริเวณลำคอและหลังมือ
4.Profhilo

ส่วนประกอบหลัก: High and Low Molecular Weight Hyaluronic Acid (HA) ที่มีความบริสุทธิ์สูง
กลไกการทำงาน
Profhilo เป็น Bio-remodelling agent ที่มี HA ความเข้มข้นสูงพิเศษ ซึ่งจะกระจายตัวทั่วชั้นผิวหนังแท้ กระตุ้นเซลล์ผิวให้สร้างคอลลาเจนและอีลาสติน รวมถึงปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม
จุดเด่น
เน้นการปรับปรุงคุณภาพผิวและเพิ่มความชุ่มชื้น: ไม่ใช่การเติมเต็มวอลลุ่มแบบฟิลเลอร์ แต่เน้นการทำให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มฟู ยืดหยุ่น และกระชับจากภายใน
เทคนิคการฉีดเฉพาะจุด (BAP Technique): มักฉีดเพียง 5 จุดต่อข้างบนใบหน้า เพื่อให้สารกระจายตัวทั่วถึง ทำให้สะดวกและลดรอยเข็ม
ลดปัญหาผิว "Crepey Skin": เหมาะสำหรับผิวที่ดูเหี่ยว ย่น คล้ายกระดาษย่น โดยเฉพาะบริเวณหน้า ลำคอ และหลังมือ
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวมให้ชุ่มชื้น กระชับ และยืดหยุ่นขึ้น, มีปัญหาริ้วรอยเล็กๆ, หรือผิวที่เริ่มดูโทรมและขาดความสดใส
การเตรียมตัวก่อนทำ Biostimulator
ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและความเหมาะสม
แจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว ยาที่กำลังรับประทาน หรืออาหารเสริมที่ใช้
งดรับประทานยาบางชนิด เช่น แอสไพริน, NSAIDs (ยาแก้ปวดกลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่
สเตียรอยด์) วิตามินและอาหารเสริมบางชนิดที่อาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนทำ (ตามคำแนะนำของแพทย์)
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนทำ
พักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันทำหัตถการ
การดูแลหลังทำ Biostimulator
ประคบเย็น: ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก อาจมีการประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมหรือรอยช้ำที่อาจเกิดขึ้น
หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดแรงๆ: งดการกด นวด หรือถูบริเวณที่ฉีดแรงๆ ในช่วง 1-2 วันแรก
นวดกระตุ้น (ในบางกรณี): แพทย์อาจแนะนำวิธีการนวดบริเวณที่ฉีดเป็นพิเศษ เพื่อช่วยให้สารกระจายตัวได้ดีและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (ขึ้นอยู่กับชนิดของ Biostimulator)
หลีกเลี่ยงความร้อนสูง: งดการอบซาวน่า อบไอน้ำ เลเซอร์ หรือกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนสูงบริเวณที่ฉีด ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก: งดการออกกำลังกายที่หนักมากในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก
ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ช่วยให้กระบวนการทำงานของร่างกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
พบแพทย์ตามนัด: กลับมาพบแพทย์ตามนัดหมายเพื่อติดตามผลการรักษาและประเมินความก้าวหน้า









ความคิดเห็น